บันทึกการเรียนครั้งที่3
วันศุกร์ ที่ 16 สิงหาคม 256
เวลา 08:30-12:30รหัสวิชา
EAED3207 การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
การเรียนการสอนได้เรียนพร้อมกัน เซค1และ เซค2 ได้ให้นักศึกษาจับกลุ่มเข้าหากันพร้อมที่จะศึกษางานกลุ่มตนเอง
กลุ่มของฉันได้เรื่อง เสียง
เสียง เป็นคลื่นเชิงกลที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ เมื่อวัตถุสั่นสะเทือน
ก็จะทำให้เกิดการอัดตัวและขยายตัวของคลื่นเสียง และถูกส่งผ่านตัวกลาง เช่น อากาศ
ไปยังหู แต่เสียงสามารถเดินทางผ่านสสารในสถานะก๊าซ ของเหลว และของแข็งก็ได้
แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านสุญญากาศได้
เมื่อการสั่นสะเทือนนั้นมาถึงหู
มันจะถูกแปลงเป็นพัลส์ประสาท ซึ่งจะถูกส่งไปยังสมอง
ทำให้เรารับรู้และจำแนกเสียงต่างๆ
การเกิดเสียง
เสียง เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวัตถุหรือแหล่งกำเนิดเสียงมีการสั่นสะเทือนส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของอากาศที่อยู่โดยรอบ
กล่าวคือโมเลกกุลของอากาศเหล่านี้จะเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมไปชนกับโมเลกุลที่อยู่ถัดไป
ก่อให้เกิดการถ่ายโอนโมเมนตัมจากโมเลกุลที่มีการเคลื่อนที่ให้กับโมเลกุลที่อยู่ในสภาวะปกติ
จากนั้นโมเลกุลที่ชนกันนี้จะแยกออกจากกันโดยโมเลกุลที่เคลื่อนที่มาจะถูกดึงกลับไปยังตำแหน่งเดิมด้วยแรงปฏิกิริยาและโมเลกุลที่ได้รับการถ่ายโอนพลังงานจะเคลื่อนที่ไปชนกับโมเลกุลที่อยู่ถัดไป
ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นสลับกันไปมาได้เมื่อสื่อกลาง (ในที่นี้คืออากาศ)
มีคุณสมบัติของความยืดหยุ่น การเคลื่อนที่ของโมเลกุลอากาศนี้จึงเกิดเป็นคลื่นเสียง
คุณลักษณะของเสียง
คุณลักษณะเฉพาะของเสียง
ได้แก่ ความยาวช่วงคลื่น แอมปลิจูด และความเร็ว
เสียงแต่ละเสียงมีความแตกต่างกัน
เสียงสูง-เสียงต่ำ, เสียงดัง-เสียงเบา, หรือคุณภาพของเสียงลักษณะต่างๆ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดเสียง
และจำนวนรอบต่อวินาทีของการสั่นสะเทือน
ความถี่ระดับเสียง (pitch) หมายถึง
เสียงสูงเสียงต่ำ สิ่งที่ทำให้เสียงแต่ละเสียงสูงต่ำแตกต่างกันนั้น
ขึ้นอยู่กับความเร็วในการสั่นสะเทือนของวัตถุ
วัตถุที่สั่นเร็วเสียงจะสูงกว่าวัตถุที่สั่นช้า
โดยจะมีหน่วยวัดความถี่ของการสั่นสะเทือนต่อวินาที เช่น 60 รอบต่อวินาที,
2,000 รอบต่อวินาที เป็นต้น และนอกจาก
วัตถุที่มีความถี่ในการสั่นสะเทือนมากกว่า จะมีเสียงที่สูงกว่าแล้ว
หากความถี่มากขึ้นเท่าตัว ก็จะมีระดับเสียงสูงขึ้นเท่ากับ 1 ออกเตฟ
(octave) ภาษาไทยเรียกว่า 1 ช่วงคู่แปด
ความยาวช่วงคลื่น
ความยาวช่วงคลื่น (wavelength) หมายถึง
ระยะทางระหว่างยอดคลื่นสองยอดที่ติดกันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการอัดตัวของคลื่นเสียง
(คล้ายคลึงกับยอดคลื่นในทะเล) ยิ่งความยาวช่วงคลื่นมีมาก ความถี่ของเสียง
(ระดับเสียง) ยิ่งต่ำลง
ความกว้างช่วงคลื่น
ความกว้างช่วงคลื่น (bandwidth) หมายถึง
ขนาดของวงคลื่นสองวงที่แผ่กันซึ่งเกิดขึ้นเมื่อความยาวของคลื่นเสียงมีน้อย
ยิ่งความกว้างช่วงคลื่นมีมาก ความถี่ของเสียง (ระดับเสียง) ยิ่งสูงขึ้น
ความดันเสียง
หมายถึง
ค่าความดันของคลื่นเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปจากความดันบรรยากาศปกติ
ซึ่งค่าความดันที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ
ค่าความสูงคลื่นหรือแอมปลิจูด
การตอบสนองของหูต่อความดันเสียง
ไม่ได้มีลักษณะเป็นเส้นตรง
แต่มีความสัมพันธ์นลักษณะของลอกาลิทึม (Logarithm) ดังนั้น ค่า
ระดับความดันเสียง
ที่อ่านได้จากการตรวจวัดโดยเครื่องวัดเสียงนั้น
เป็นค่าทีได้จากการเปรียบเทียบกับความดันเสียงอ้างอิงแล้ว มีหน่วยวัดเป็น เดชิเบล
(decibel : dB)
แอมพลิจูด
แอมพลิจูด (amplitude) หมายถึง
ความสูงระหว่างยอดคลื่นและท้องคลื่นของคลื่นเสียง ที่แสดงถึงความเข้มของเสียง (Intensity)
หรือความดังของเสียง (Loudness) ยิ่งแอมปลิจูดมีค่ามาก
ความเข้มหรือความดังของเสียงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ประเภทของเสียง
แบ่งตามลักษณะการเกิดเสียงได้ 3 ลักษณะ
1. เสียงดังแบบต่อเนื่อง (continuous
Noise) เป็นเสียงดังที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำแนกออกเป็น 2 ลักษณะ คือ เสียงดังต่อเนื่องแบบคงที่ (steady-state Noise) และเสียงดีงต่อเนื่องที่ไม่คงที่
(Non steady state Noise)
1.1 เสียงดังต่อเนื่องแบบคงที่ (Steady-state
Noise) เป็นลักษณะเสียงดังต่อเนื่องที่มีระดับเสียง เปลี่ยนแปลง
ไม่เกิน 3 เดซิเบล เช่น เสียงจากเครื่องทอผ้า
เครื่องปั่นด้าย เสียงพัดลม เป็นต้u
1.2
เสียงดังต่อเนื่องที่ไม่คงที่ (Non-steady
state Noise) เป็นลักษณะเสียงดังต่อเนื่องที่มี
ระดับเลียงเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 10 เดชิเบล เช่น
เสียงจากเลื่อยวงเดือน
เครื่องเจียร เป็นต้น
2. เสียงดังเป็นช่วงๆ (lntermittent
Noise) เป็นเสียงที่ดังไม่ต่อเนีอง
มีความเงียบหรีอเบากว่าเป็นระยะๆลลับไปมา เช่น เสียงเครื่องปั๊ม/อัดลม เสียงจราจร
เสียงเครื่องบินที่บินผ่านไปมา เป็นต้น
3. เสียงดังกระทบ หรือ กระแทก (lmpact
or lmpulse Noise) เป็นเสียงที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว
ในเวลาน้อยกว่า 1 วินาที มีการเปลี่ยนแปลงของเสียงมากกว่า 40
เดชิเบล เช่น เสียงการตอกเสาเข็ ม การปั๊มชิ้นงาน
การทุบเคาะอย่างแรง เป็นต้น
- Degree ระดับ
- Variation การเปลี่ยนแปลง
- Sound เสียง
- Nature ธรรมชาติ
- Continuous Noise เสียงดังแบบต่อเนื่อง
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์หยิบยกตัวอย่างต่างๆมากมายเพื่อที่จะให้เราเข้าใจ
และอธิบายให้ฟังคนกว่าจะเข้าใจ อาจารย์ใจเย็นมาก
ประเมินเพื่อน : เพื่อนตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและช่วยกันตอบคำถาม
ประเมินตนเอง : ศึกษาค้นคว้าให้ความร่วมมือกับเพื่อนภายในกลุ่มได้ดี
ได้แสดงออกทางความคิดกับเพื่อนและอาจารย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น